DSC_0136

พิพิธภัณฑ์ครุฑ แห่งเดียวในไทยและในอาเซียน

เรามักจะเห็นครุฑตามหน้าบันหรือในภาพจิตรกรรมฝาผนังตามวัดวาอาราม ประดับหน้าสถานที่ราชการและเอกชนบางแห่ง ครุฑยังถูกใช้เป็นตราแผ่นดินมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน เราจึงได้เห็นครุฑในเอกสารราชการ ตลอดจนบนธนบัตรที่พกติดตัวกันทุกวัน แล้วเรารู้จักครุฑดีแค่ไหน มาหาคำตอบได้ในพิพิธภัณฑ์ครุฑ (Garuda Museum) โดยธนาคารทหารไทยธนชาต พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าครุฑแห่งเดียวในไทยและในอาเซียน

เริ่มก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ครุฑ

ย้อนไปเมื่อ พ.ศ. 2484 หรือในสมัยรัชกาลที่ 8 ธนาคารนครหลวงไทยเริ่มเปิดกิจการและได้รับพระราชทานตราตั้ง เครื่องหมาย “ครุฑพ่าห์” มาติดตั้งที่ด้านหน้าอาคารสำนักงานใหญ่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่และสาขาต่างๆ เมื่อควบรวม กิจการกับธนาคารธนชาตใน พ.ศ. 2554 จึงอัญเชิญครุฑพ่าห์ลงจากทุกสำนักงานรวมกว่า 200 องค์ ตามพระราชบัญญัติ เครื่องหมายครุฑพ่าห์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ที่จะต้องคืนตราตั้งให้แก่สำนักพระราชวัง หากเลิกประกอบกิจการหรือโอนกิจการให้ผู้อื่น แล้วนำองค์ครุฑมาจัดเก็บไว้ที่ศูนย์ฝึกอบรมธนาคารธนชาต บางปู แต่ด้วยตระหนักในคุณค่าขององค์ครุฑ เพราะเป็นเครื่องหมายพระราชทานอันเกี่ยวเนื่องในพระมหากษัตริย์ จึงเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ครุฑ ซึ่งในช่วงแรกเปิดให้เข้าชมเฉพาะกลุ่ม แต่หลังจากมีการควบรวมธุรกิจระหว่างธนาคารธนชาตและธนาคารทหารไทย ภายใต้ชื่อใหม่ว่า ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ได้มีการปรับปรุงนิทรรศการและเนื้อหาการจัดแสดงเพิ่มเติม พร้อมเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมฟรี ด้วยหวังให้พิพิธภัณฑ์นี้เป็นมรดกส่งต่อคนรุ่นหลังได้ตระหนักถึงคุณค่าของครุฑ สัญลักษณ์แห่งความกตัญญู ความดีงาม และความซื่อสัตย์ให้อยู่คู่สังคมไทยตลอดไป

6 โซนนิทรรศการที่น่าสนใจ

รูปโฉมใหม่ของพิพิธภัณฑ์ครุฑมีความทันสมัยด้วยแอนิเมชันและมัลติมีเดียต่างๆ แบ่งเป็น 6 โซนนิทรรศการ เริ่มที่โถงต้อนรับมีภาพวาดป่าหิมพานต์ขนาดใหญ่เป็นฉากหลัง นำเสนอด้วยเทคโนโลยีโลกเสมือนจริงหรือ AR (Augmented Reality) เพียงสแกน QR Code บนพื้นก็จะมีเหล่าสัตว์หิมพานต์ออกมาโลดแล่น และเรายังสามารถถ่ายรูปกับเหล่าสัตว์หิมพานต์ได้ด้วย อีกฟากของโถงต้อนรับเล่าถึงที่มาของพิพิธภัณฑ์ มีกลอนที่ อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ เขียนขึ้นเพื่อพิพิธภัณฑ์นี้ด้วย จากนั้นเข้าชมหนังสั้นที่มีเสียงบรรยายโดยครูมืด-ประสาท ทองอร่าม ผู้ทรงคุณวุฒิด้าน ศิลปวัฒนธรรมไทยแห่งกรมศิลปากร เล่าถึงตำนานครุฑ สัตว์กึ่งเทพผู้มีรูปกายครึ่งมนุษย์ครึ่งนกอินทรี ตามคติความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดูและศาสนาพุทธ พร้อมชมแอนิเมชันน่ารักเล่าเรื่องลับๆ ของครุฑ

เดินขึ้นชั้น 2 เข้าสู่ห้องครุฑพิมาน มารู้จักการกำเนิดโลกและจักรวาล พร้อมท่องไปในดินแดนหิมพานต์จำลอง ที่ตรงกลางเป็นสระอโนดาต ทำความรู้จักสัตว์นานาชนิดในป่าหิมพานต์ ต้นมักกะลีผล ไข่ฟองโตที่กำเนิดครุฑ และที่อยู่ของพญาครุฑ ณ วิมานฉิมพลี (ป่างิ้ว) ที่เชิงเขาพระสุเมรุ จากนั้นไปห้องนครนาคราชเพื่อเยี่ยมถิ่นของพญานาค ฟังที่มาของ “ครุฑยุดนาค” ต่อด้วยห้องอมตะเจ้าเวหา ชมแอนิเมชั่นเรื่องราวความเพียรของครุฑที่จะนำน้ำอมฤทธิ์มาไถ่ถอนคำสาปให้มารดา จนถึงสาเหตุที่ทำให้ครุฑกลายเป็นอมตะและพาหนะของพระนารายณ์ ถัดมาเป็นห้องสุบรรณแห่งองค์ราชัน ตามรอยตรา “ครุฑพ่าห์” ที่ใช้เป็นตราแผ่นดิน ความสำคัญของครุฑกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ปิดท้ายด้วยห้องจัดแสดงครุฑที่รวบรวมองค์ครุฑซึ่งเคยเป็นตราตั้งพระราชทานจากสาขาต่างๆ ของธนาคารนครหลวงไทย ในการชมนิทรรศการ ยังมีกิมมิกสนุกๆ นั่นคือ มีสมุดแสตมป์ตราสัญลักษณ์รูปครุฑตามจุดต่างๆ ให้เราได้ประทับตรากันด้วย

ที่สุดขององค์ครุฑตราตั้ง

ไฮไลต์ของการมาพิพิธภัณฑ์นี้ก็ต้องมาชมองค์ครุฑพ่าห์ที่คัดเลือกมาจัดแสดงไว้ถึง 150 องค์ องค์ที่โดดเด่นสุดคือ ครุฑพ่าห์กายสีแดงสูงประมาณ 4 เมตร อยู่กลางแจ้งด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เคยประดับอยู่ด้านหน้าธนาคารนครหลวงไทยสำนักงานใหญ่ จัดเป็นองค์ครุฑพ่าห์ที่มีขนาดใหญ่สุดในพิพิธภัณฑ์ ส่วนองค์ที่เล็กสุดขนาด 15 เซนติเมตร ประดับอยู่เหนือทางเข้าห้องอมตะเจ้าเวหา ครุฑพ่าห์สาขาหาดใหญ่ในห้องสุบรรณแห่งองค์ราชัน เป็นครุฑพ่าห์แกะจากไม้สักที่ยังคงความสมบูรณ์มากที่สุด ส่วนครุฑพ่าห์สาขาราชดำเนินมีอายุเก่าแก่กว่า 70 ปี ซึ่งเป็นสาขาแรกของธนาคาร และครุฑพ่าห์สาขาเยาวราชมีหน้าตาคล้ายกับคนจีน สวมหมวกทรงจีน มีเหนียงคอ และปีกสีดำเพราะถูกรมด้วยควันจากการคั่วเกาลัดทุกวัน

หากดูลึกในรายละเอียดจะพบว่าครุฑแต่ละองค์ไม่เหมือนกันเลย บางองค์หน้าเป็นนก บางองค์หน้าเป็นยักษ์ ตลอดจนผ้านุ่งที่สวมก็แตกต่างกันทั้งสิ้น สะท้อนฝีมือช่างจากแต่ละพื้นที่ ครุฑรุ่นแรกๆ แกะสลักจากไม้ ครุฑรุ่นหลังทำจากไฟเบอร์กลาสหล่อขึ้นรูปจากแม่พิมพ์ บางองค์ชำรุดสีหลุดล่อน เนื้อไม้ผุกร่อน แต่ยิ่งดูก็ยิ่งขลังน่าเกรงขาม ทว่าครุฑตราตั้งเกิดจากพื้นฐานความเชื่อในศาสนา ร้อยโยงความสัมพันธ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์และความศรัทธาของคนไทย นับเป็นครุฑศิลป์อันทรงคุณค่าอยู่เหนือกาลเวลา

ล้อมกรอบ

พิพิธภัณฑ์ครุฑ: ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู ซอย 9A จ.สมุทรปราการ เปิดให้เข้าชมเฉพาะวันศุกร์-เสาร์ วันละ 3 รอบคือ 10.00 น. 13.00 น. และ 15:00 น. จำกัดรอบละ 15 คน มีผู้บรรยายนำชมทุกรอบ เข้าชมฟรีแต่ต้องจองรอบเข้าชมล่วงหน้าที่ https://www.ttbfoundation.org/th/garudamuseum/  โทร. 09-8882-3900

 

#How to Go

เดินทางจากถนนพระราม 4 ใช้ทางด่วนขั้นที่ 1 (เฉลิมมหานคร) มุ่งหน้าทางออกสมุทรปราการ วิ่งไปตามถนนสุขุมวิทผ่านแยกปากน้ำ ฟาร์มจระเข้ เมืองโบราณ มุ่งหน้าเข้านิคมอุตสาหกรรมบางปู แล้วเข้าซอย 9A มีป้ายบอกทางไปพิพิธภัณฑ์ครุฑ

Contact Us
Contact Us