“ชายแดนเบื้องบูรพา ป่างามน้ำตกสวย มากด้วยรอยอารยธรรมโบราณ ย่านการค้าไทย-เขมร” นี่คือคำขวัญของ จังหวัดสระแก้ว เมืองชายแดนตะวันออกที่หลากหลายด้วยธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตผู้คน ผสานเป็นเสน่ห์ให้น่าไปเยือนสระแก้ว จังหวัดซึ่งมีเนื้อที่มากที่สุดในภาคตะวันออก มีชาติพันธุ์อาศัยอยู่ร่วมกันทั้งญ้อ ลาว ญวน เขมร จีน และไทย สระแก้วจึงกลายเป็นเบ้าหลอมทางอารยธรรม และเมืองน่าเที่ยวซึ่ง
ยังมีอะไรใหม่ๆ รอให้ค้นพบอีกนับไม่ถ้วน
มหัศจรรย์ธรรมชาติทิศบูรพา
สระแก้วน่าเที่ยวทั้ง 3 ฤดู ยิ่งฤดูฝนยิ่งสวยงามด้วยพงไพรเขียวสด น้ำตกไหลซู่ซ่าฉ่ำเย็น ดอกไม้ป่าเบ่งบาน และที่สำคัญมีผีเสื้อหลายร้อยชนิดเติบโตเต็มที่โบยบินอวดความงามใน “อุทยานแห่งชาติปางสีดา” ผืนป่ามรดกโลกที่มีผีเสื้อกว่า 500 ชนิด โดยจะมีมากในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม การชมผีเสื้อปางสีดามีทั้งโป่งเทียม โป่งธรรมชาติ ดงดอกไม้ปลูกไว้ล่อผีเสื้อออกมาให้ชมใกล้ถนน หรือเส้นทางเดินป่าธรรมชาติก็มี ในวันที่แดดอบอุ่นเจิดจ้าฝูงผีเสื้อนับหมื่นจะบินออกมาดูดน้ำหวานตามดอกไม้ แล้วลงไปรวมกันตามโป่งริมลำห้วย ทั้งผีเสื้อสะพายฟ้า ผีเสื้อหางติ่งนางละเวง ผีเสื้อหางดาบ ผีเสื้อลายแผนที่ ฯลฯ โดยเฉพาะผีเสื้อลายซิกแซ็ก ถือเป็นพระเอกของที่นี่เลย มาเยือนป่าปางสีดาแล้วห้ามพลาดเที่ยว “น้ำตกปางสีดา” น้ำตกขนาดเล็กที่สวยงาม มีน้ำใสไหลเย็นตลอดปี สายน้ำไหลลงมาจากผาสูงราวๆ 10 เมตร ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ใครอยากสัมผัสธรรมชาติเงียบสงบ ต้องไปที่นี่เลย
อีกแหล่งธรรมชาติมหัศจรรย์แห่งสระแก้วที่ได้ฉายาว่า “สโตนเฮนจ์เมืองไทย” คือ “ละลุ” อยู่ในอำเภอตาพระยา ลักษณะเป็นแท่งดินทรงแหลมตะปุ่มตะป่ำ คล้ายแนวกำแพงทอดยาวสลับกันไปบนเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ นักธรณีวิทยาบอกว่าละลุเกิดจากการกัดกร่อนพังทลายของชั้นดินที่มีความแข็งไม่เท่ากัน ตัวกระทำหลักคือ น้ำฝน ลม และแสงแดด ทำให้ดินลูกรังสีส้มอมแดงเข้มที่มีแร่เหล็กเจือปนอยู่มากผุกร่อน กลายเป็นเสาดินสูง 4-5 เมตร มีร่องลายริ้วแปลกตา และในทุกปีรูปลักษณ์ของละลุจะเปลี่ยนไป เพราะผุกร่อนพังทลายลงเรื่อยๆ วิธีการเที่ยวชมคือต้องเหมารถอีแต๋นของชาวบ้านเข้าไป ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงกำลังดี โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นแสงจะสวยสุด
ชมวิวสุดชิลไม่เหมือนใคร
การเที่ยวสบายสไตล์สระแก้ว เป็นการรวมธรรมชาติ การพักผ่อน และไลฟ์สไตล์เนิบช้าไว้ด้วยกัน อย่างที่ “เขาฉกรรจ์” อำเภอเขาฉกรรจ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติมีชื่อเสียงด้วยเทือกเขาหินปูนมหึมา 3 ลูกเรียงต่อกัน โดยมีเขาฉกรรจ์ใหญ่สุดอยู่ตรงกลาง เขามิ่งอยู่ด้านซ้ายและเขาฝาละมีอยู่ด้านขวา สำรวจพบถ้ำมากถึง 72 แห่ง อาทิ ถ้ำเขาทะลุ ซึ่งเป็นช่องเขาสองด้านทะลุถึงกัน รอบๆ มีผืนป่าร่มรื่น สวนสาธารณะ และร้านกาแฟวิวหลักล้าน น่าไปนั่งจิบเครื่องดื่ม สั่งอาหารมาชิม พร้อมเดินชมสวนดอกไม้ ใครที่ชอบถ่ายภาพสายเซลฟี่จะมีความสุขมากกับการเดินถ่ายภาพตามจุดเช็กอิน ที่มองเห็นเขาฉกรรจ์โดดเด่น เติมแต่งด้วยดอกไม้สีสดใส ใครไปช่วงเย็นจะได้เห็นฝูงค้างคาวบินออกจากถ้ำบนเพิงผาสูงชัน เป็นสายพาดผ่านท้องฟ้านานนับชั่วโมง โดยพวกมันจะบินกลับมาในตอนใกล้รุ่งของวันใหม่
จุดชมวิวอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดคือ “อ่างเก็บน้ำเขื่อนพระปรง” อำเภอวัฒนานคร ชวนกันไปล่องแพชมวิวทะเลสาบกว้างสุดลูกหูลูกตา สูดอากาศบริสุทธิ์ รับลมเย็นๆ เขื่อนพระปรงเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำเพื่อชลประทานที่ใหญ่ที่สุดของสระแก้ว ความจุมากถึง 97 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสร้างกั้นลำห้วยพระปรงที่ไหลลงมาจากป่าปางสีดา ตัวอ่างเก็บน้ำจึงเป็นป่าในอุทยานแห่งชาติปางสีดาที่ถูกน้ำท่วม เหมาะไปล่องแพชมธรรมชาติเพลินๆ ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง พร้อมสั่งอาหารเมนูปลามานั่งกินบนแพอย่างมีความสุข
วิถีชุมชนคนสระแก้ว
สระแก้วเป็นเมืองชายแดนติดกัมพูชา จึงมีคนหลายเชื้อชาติเข้ามาอาศัยอยู่ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีชีวิตชุมชน อย่างที่อำเภออรัญประเทศ “ชุมชนมิตรสัมพันธ์” เป็นชุมชนญวนซึ่งหนีภัยสงครามเข้ามาผ่านด่านชายแดนปอยเปตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 มิตรสัมพันธ์เป็นชุมชนใหญ่ใจกลางอรัญประเทศ ตามบ้านเรือนจะเห็นภาษาเวียดนาม โคมไฟแดงแบบจีน ศูนย์รวมใจของชุมชนคือ วัดมิตรสัมพันธ์ วัดพุทธสไตล์จีนเวียดนามที่มีสถาปัตยกรรมแปลกตา ชมพระอุโบสถสไตล์จีน หอระฆังจีน รวมถึงหอไตรเสาเดี่ยวกลางน้ำ ศิลปะจีนที่หาดูได้ยาก หากไปเที่ยวตรงกับช่วงเทศกาลหรือวันสำคัญ จะเห็นผู้หญิงในชุมชนใส่ชุดอ๋าวหญ่าย สวมหมวกทรงแหลมแบบเวียดนามแท้ และต้องไม่พลาดชิมอาหารเวียดนามแสนอร่อยที่ร้านยายเต็ม เสิร์ฟครบทั้งแหนมเนือง จ้างหล่อง บั๋นหอย ฯลฯ
ปิดท้ายทริปสระแก้วสุขใจในชุมชน “หมู่บ้านทับทิมสยาม 05” อำเภอคลองหาด ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2536 บนพื้นที่ศูนย์อพยพที่ 8 ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีลำคลองน้ำใสกั้นพรมแดนไว้ เมื่อเหตุการณ์สงบจึงตั้งเป็นหมู่บ้าน พร้อมนำโครงการพระราชดำริเข้ามาทั้งเกษตรกรรมและเลี้ยงโคนม หมู่บ้านมีเนื้อที่กว่า 9,960 ไร่ 150 หลังคาเรือน มีคนอยู่เกือบ 800 คน นักท่องเที่ยวสามารถขับรถเที่ยวชม จะเห็นแบบบ้านที่เหมือนกันทุกหลัง เพราะสร้างโดยความร่วมมือไทย-เยอรมนี นอกจากนี้ยังมีบังเกอร์เก่าที่เคยใช้หลบระเบิด และเส้นทางขับรถชมวิวเทือกเขาหินปูน ไปจนถึงร้านกาแฟ Marugo Park ปลูกดอกทานตะวันสีเหลืองสดใสไว้ให้ถ่ายรูป และมีโรงเรือนกุหลาบหลากสีให้ชมด้วย
ถ้ายังนึกไม่ออกว่าวันหยุดนี้จะไปเที่ยวที่ไหน ลองนึกถึง “สระแก้ว” ถ้าได้สัมผัสแล้ว คุณจะหลงรักจังหวัดนี้แน่นอน
Traveler’s Guide
Getting there: สระแก้วอยู่ห่างจาก กทม. 245 กิโลเมตร ใช้ถนนพหลโยธินถึงรังสิต ชิดซ้ายโดยใช้สะพานวงแหวนข้ามไปลงทางหลวงหมายเลข 305 ผ่านอำเภอองครักษ์ นครนายก เข้าทางหลวงหมายเลข 33 ผ่านอำเภอกบินทร์บุรี ไปถึงสระแก้ว ระยะทางประมาณ 214 กิโลเมตร
Contact: ททท. สระแก้ว โทร. 037-312-282 / อุทยานฯ ปางสีดา โทร. 037-247-948, 08-1862-1511 / ล่องแพเขื่อนพระปรง โทร. 08-4863-1735, 09-0438-8847 / มีเขา มีเรา คาเฟ่ ดูค้างคาวเขาฉกรรจ์ โทร. 08-6386-9715 / ร้านยายเต็ม อาหารเวียดนามชุมชนมิตรสัมพันธ์ โทร. 08-0880-0090 / ร้าน Marugo Park หมู่บ้านทับทิมสยาม 05 โทร. 09-3321-2977